ตรวจเอดส์ รู้ผลทันที สำหรับ การตรวจโรค HIV หรือ AIDS นั้น ปัจจุบัน มีการพัฒนา ขึ้นมาก โดยมีน้ำยา หรือเทคนิค ที่สามารถตรวจได้ไว ขึ้นมากๆ ทั้งนี้ เราขออธิบาย กันก่อนว่า โรคเอดส์ ไม่ได้เหมือนกับ เอชไอวี
เอดส์ คือ กลุ่ม อาการของโรค ในระยะสุดท้าย ของการติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งผู้ป่วยเอดส์นั้น จะต้องเสี่ยง ได้รับเชื้อเอชไอวี มานานมากแล้ว ถึงจะกลาย เป็นโรคเอดส์ หรือสภาวะเอดส์ได้ เกิดขึ้นได้ 3 กรณี
1. ได้รับความเสี่ยง ติดเชื้อเอชไอวี มาแล้ว แต่ไม่รู้ตัว ไม่ทราบว่า ตนเองติดเชื้อ ส่งผลให้ ไม่ได้เข้ารับ การรักษา จึงทำให้ ระยะของโรคนั้น เดินทาง มาถึงระยะสุดท้าย
2. รู้ตัวว่า ติดเชื้อเอชไอวี แต่ไม่ไป รักษารับยาต้านไวรัส มาทาน ปล่อยเลยตามเลย คิดว่า ทุกอย่างมันจบสิ้นแล้ว และใช้ชีวิตไปเรื่อย ๆ จนท้ายที่สุด ได้กลายเป็นโรคติดเชื้อเอชไอวี ในสภาวะเอดส์
3. พึ่งทราบว่า ติดเชื้อเอชไอวี ในตอนที่ การทานยาต้านไวรัสนั้น อาจไม่ช่วย หรือรู้ตัว ในตอนที่ อาการของโรค คือ สภาวะเอดส์แล้ว
เอชไอวี ไม่ใช่เอดส์ เอดส์น่ากลัวกว่าเอชไอวี โรคติดเชื้อ HIV เกิดจากการที่ ร่างกายได้รับเชื้อ ไวรัสเอชไอวี Human Immunodeficiency Virus เข้าไป เชื้อไวรัสนี้ ได้ทำลาย ระบบภูมิคุ้มกัน ของร่างกายไปเรื่อย ๆ กระจายไปสู่อวัยวะต่าง ๆ ทำให้ร่างกายอ่อนแอลง เสี่ยงได้รับเชื้ออื่นๆ และป่วยง่ายขึ้น หากไม่ได้ ทานยาต้านไวรัส สม่ำเสมอ ร่างกาย ก็จะถูกเชื้อนี้ ทำลายไปเรื่อย ๆ จนกระทั่ง เข้าสู่สภาวะเอดส์ คือ ระบบภูมิคุ้มกันล้มเหลว ไม่มีทางรักษา หรือยับยั้งเชื้อไวรัส นี้ได้
ดังนั้น ผู้ป่วยเอชไอวี ไม่จำเป็น จะต้องเข้าสู่ สภาวะเอดส์เสมอไป หากมี การทานยาต้านไวรัส สม่ำเสมอในทุกๆ วัน และอยู่ในการควบคุม ดูแลของแพทย์ เพราะยาต้านไวรัส ที่ผู้ป่วยเอชไอวี ทานเข้าไป มีประสิทธิภาพในการกดเชื้อไวรัสนั้นไว้ไม่ให้แบ่งตัวเพื่อเพิ่มจำนวนขึ้น เท่ากับว่าหากคุณตรวจไว รู้ผลไว ก็เข้าสู่ระบบรักษาได้ไวขึ้น ทำให้สามารถควบคุมเชื้อได้ไว ไม่เข้าสู่สภาวะเอดส์
ตรวจเอดส์ รู้ผลทันที จึงดีต่อผู้มีความเสี่ยง ปัจจุบันการตรวจเอชไอวีมีอยู่ 3 วิธีหลักๆ ที่นิยม คือ
– Anti HIV สามารถทราบผลภายใน 1-2 ชั่วโมงหลังตรวจ สามารถตรวจได้เมื่อได้รับความเสี่ยงมาประมาณอย่างน้อย 3-4 สัปดาห์
– NAT หรือ Nucleic Acid Testing สามารถทราบผลภายใน 3 วันหลังตรวจ สามารถตรวจได้เมื่อได้รับความเสี่ยงมาประมาณอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ ให้ผลชัดเจนกว่าการตรวจแบบ Anti HIV
– Rapid HIV Test เป็นชุดตรวจชนิดเร็วหรือเรียกได้ว่าตรวจแล้วรู้ผลเลย โดยรอผลเพียง 20 นาที เป็นเพียงการตรวจคัดกรอง HIV เท่านั้น หากผลตรวจเป็นบวก คือ มีการพบเชื้อ ต้องตรวจซ้ำอีกครั้งเพื่อยืนยันว่าติดเชื้อจริงหรือไม่ ส่วนใหญ่ตามคลินิกหรือโรงพยาบาลจะนิยมใช้ตรวจคัดกรองคนไข้ก่อนเพื่อคัดผู้ป่วยที่มีโอกาสพบเชื้อ กับไม่พบเชื้ออกจากกัน เพราะว่าการตรวจคัดกรองนี้รวดเร็ว ทำให้ไม่เสียเวลาทั้งแพทย์และผู้ตรวจเอง
ดังนั้น การตรวจเอดส์ ในปัจจุบันจะนิยมตรวจแบบ Rapid Test เพราะตรวจแล้วสามารถรู้ผลรวดเร็ว แบบตรวจแล้วรู้ผลทันที อีกทั้งยังมีความแม่นยำสูง ปัจจุบันในต่างประเทศนิยมนำมาใช้กันเป็นชุดตรวจคัดกรองเอชไอวีด้วยตัวเอง ซึ่งในไทยก็มีขายเช่นกัน
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook