ตรวจเอดส์ 14 วัน ผล ที่ได้จะสามารถวางใจได้หรือไม่ โรคเอชไอวี (HIV) เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน เมื่อร่างกายของเราได้รับเชื้อเอชไอวีเข้าไปแล้ว
เชื้อจะเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาว (CD4) ซึ่งเป็นเซลล์ที่คอยทำหน้าที่ป้องกันร่างกายจากการติดเชื้อ และเมื่อไหร่ที่เซลล์เม็ดเลือดขาวและระบบภูมิคุ้มกันได้ถูกทำลายลงจากการ ติดเชื้อเอชไอวี
ก็อาจส่งผลให้ร่างกายของผู้ป่วยอ่อนแอจาสามารถเกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ง่าย และแน่นอนว่าเมื่อร่างกายของเราได้รับเชื้อเอชไอวีเข้าไปแล้ว แต่ไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง
พอเวลาผ่านไปเชื้อเอชไอวีอาจพัฒนาไปสู่ระยะเอดส์ได้ ดังนั้น หากรู้ว่าตนเองมีความเสี่ยงก็ควรเข้ารับการตรวจโดยเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อเอชไอวีพัฒนาไปสู่ระยะเอดส์ซึ่งถือว่าเป็นระยะที่รักษายาก
อย่างไรก็ตาม การตรวจหาเชื้อเอชไอวี หรือเอดส์ สมัยนี้มีวิธี ที่แตกต่างกันออกไป หากต้องการผลตรวจ ที่แน่ชัดก็ ควรเลือกวิธีการตรวจ ที่เหมาะสมกับระยะเวลาที่ไปเสี่ยงต่อการติดเชื้อมา
– การตรวจแบบ Anti-HIV เป็นการตรวจเชื้อเอชไอวี ด้วยการตรวจหาภูมิต้านทาน ต่อเชื้อ โดยจะทำการวินิจฉัย จากการทำงานของภูมิต้านทาน ในเซลล์เม็ดเลือดขาว
ที่มีการต้านทาน ต่อเชื้อเอชไอวี วิธีการตรวจนี้ จะสามารถตรวจพบเชื้อ ได้ภายใน 3 สัปดาห์ ถึง 3 เดือน หลังการติดเชื้อ
– การตรวจแบบ NAT (Nucleic Acid Testing) วิธีนี้ เป็นการตรวจหา สารพันธุกรรม ของเชื้อเอชไอวี โดยจะ ตรวจการทำงานของ ระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกาย และ ตรวจหาปริมาณของเชื้อ
วิธีการตรวจนี้ มักใช้ในกรณีที่ผู้ป่วย มีความเสี่ยงสูง เพราเป็นวิธีที่ ถือว่ามีประสิทธิภาพ ในการตรวจ และมีความรวดเร็ว ในการตรวจ สามารถตรวจพบเชื้อ ได้ภายใน 1-4 สัปดาห์ หลังการติดเชื้อ
แต่วิธีนี้อาจ มีค่าใช้จ่าย ที่ค่อนข้างสูง พอสมควร
– การตรวจแบบ PCR (Polymerase Chain Reaction) เป็นการตรวจหา สารพันธุกรรม ในระดับอณูชีวโมเลกุล สามารถตรวจ ได้ในเด็ก ที่มีโอกาสได้รับเชื้อ จากมารดาหลังคลอด
ตั้งแต่ช่วงอายุ ประมาณ 1 เดือนขึ้นไป และใช้ตรวจกับ ผู้ใหญ่ที่มี ความเสี่ยง 14 วันขึ้นไป
นอกจากนี้ ปัจจุบัน ยังมีวิธีการตรวจหา เชื้อเอชไอวี อื่น ๆ ที่สามารถตรวจหาเชื้อ ได้เร็ว และมีความแม่นยำ ในการตรวจ แต่หาก ตรวจหาเชื้อเอชไอวี หรือ เอดส์ โดยเป็นการ ตรวจหาแอนติเจน ของเชื้อ
จะสามารถ ตรวจเจอเชื้อ ได้หลังไปได้รับ ความเสี่ยงมาแล้ว ประมาณ 10-14 วัน หรือ สามารถตรวจเจอเชื้อ ได้มากกว่า 95% ที่ 1 เดือน
อย่างไรก็ตาม ตรวจเอดส์ 14 วัน ผล หากเข้ารับ การตรวจหาเชื้อที่ 14 วันหลัง ได้รับความเสี่ยงมา แล้วผลตรวจเป็นลบ ก็อาจไม่มี การติดเชื้อ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ยังไม่แน่นอน 100% แนะนำให้ เข้ารับการตรวจซ้ำ อีกครั้ง
ให้แก่ผู้ที่ มีความเสี่ยง แต่ไม่กล้าเดินทาง ไปตรวจตามสถานพยาบาล โดยชุดตรวจ มีความปลอดภัย แม่นยำ และได้มาตรฐาน สามารถ ทำการตรวจได้เอง ที่บ้านง่าย ๆ เพื่อ คัดกรองด้วยตนเอง
เพราะหากตรวจพบเจอ เชื้อตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็มีโอกาส ในการป้องกัน เชื้อเอชไอวี ไม่ให้ลูกสามไปสู่ ระยะเอดส์ หรือระยะ ที่ทำการรักษายาก ได้นั่นเอง
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook