คำถามที่ใครหลายคน อาจจะสงสัยกันอยู่ว่า “ร้านขายยามีชุดตรวจเอดส์ขายไหม” เนื่องจากว่าเมื่อปีที่แล้ว คือ ปี พ.ศ 2562 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ออกมาประกาศ เกี่ยวกับประกาศของกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชุดตรวจที่เกี่ยวข้องกับ การตรวจคัดกรองการติดเชื้อเอชไอวีด้วยตนเอง โดยมีวัตถุประสงค์ เกี่ยวกับการอนุญาตให้มีการจำหน่าย ชุดตรวจเอชไอวี ที่ประชาชนสามารถหาซื้อมาตรวจด้วยตนเองได้ เป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่ ประชาชนให้สามารถเข้าถึงเรื่องนี้ ได้มากขึ้นแทนที่จะต้องเดินทางไปตรวจ ตามสถานพยาบาลเลยเท่านั้น นอกจากนี้ ยังเป็นการลด และยุติปัญหาเอดส์ในไทย โดยเน้นที่ประชาชนเมื่อตรวจได้ง่ายขึ้น ก็จะรู้ผลได้เร็วขึ้น ช่วยให้เกิดการป้องกันเชื้อไปสู่ผู้อื่น และเข้าสู่กระบวนการรักษา ได้เร็วขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์มากๆ ทั้งกับตนเองและผู้อื่น
ใครบ้างที่มีสิทธิ์ซื้อชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเองมาใช้ได้ จำเป็นหรือไม่ที่ต้องมีการขออนุญาตตรวจ จริงๆ แล้วเรื่องนี้ในไทยมีการแก้ไขปัญหากันมานาน และคำตอบคือสามารตรวจได้ทั้งเด็กและวัยรุ่น เหมือนกับชุดตรวจครรภ์ที่เปิดอย่างเสรีให้ทุกคนสามารถซื้อไปใช้ตรวจได้ แต่เน้นไปที่ร้านขายยามากกว่าที่เภสัชกรจะต้องมีการให้คำปรึกษาแนะนำก่อนขาย รวมถึงการแนะนำเมื่อทราบผลตรวจจะต้องทำอย่างไรต่อ ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้เลย
ประเด็นหนึ่งที่กังวลเกี่ยวกับชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง คือ การนำไปใช้แบบผิดวัตถุประสงค์ อย่างการนำซื้อแล้วไปบังคับตรวจแก่พนักงานก่อนเข้าทำงาน บังคับตรวจนักเรียน นักศึกษา ก่อนเข้าเรียน หากเป็นเรื่องที่ไม่ได้มาจากความสมัครใจของผู้ตรวจ เป็นเรื่องที่ผิดวัตถุประสงค์อย่างมาก ทางกองประกอบโรคศิลปะที่ควบคุมคลินิกเวชกรรม ได้ออกกฎเกณฑ์ข้อบังคับมาแล้วว่า ทางบริษัทไม่สามารถว่าจ้างรพ.เอกชน และคลินิกเอกชนให้มาตรวจเอชไอวีแก่พนักงาน ก่อนเข้าทำงาน นักเรียนและนักศึกษา ก่อนเข้าเรียน และส่งผลตรวจเอชไอวีให้แก่บริษัทได้ เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล สามารถร้องเรียนได้
มีขายจริงๆ ค่ะ เพียงแต่จะมีขายที่ร้านขายยาใหญ่ๆ อาจยังไม่ทั่วถึงครอบคลุมทั่วประเทศ ดังนั้นอาจจะหาซื้อค่อนข้างยาก
ทั้งนี้ จึงมีผู้ที่นำมาจำหน่ายผ่านทางอินเตอร์เน็ต โดยผู้ซื้อต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนซื้อ เนื่องจากอาจเป็นชุดตรวจที่โฆษณาเกินจริง และไม่ได้ผ่านมาตรฐาน ผู้ตรวจจึงควรเลือกร้านที่เชื่อถือได้ และขอเลขอย.ก่อนซื้อจะดีที่สุด
การตรวจเอชไอวีในปัจจุบัน
ปัจจุบัน การตรวจเอชไอวีด้วยตัวเอง ที่จำหน่ายอยู่ขณะนี้ จะแบ่งเป็น การตรวจแบบหา แอนติบอดีที่มีต่อเชื้อไวรัสเอชไอวี หรือ ที่เรียกว่า Anti-HIV และ การตรวจแบบหาทั้ง 2 อย่างในคราวเดียวกัน คือ ตรวจหาแอนติเจน ที่มีต่อเชื้อเอชไอวี p24 antigen และตรวจแบบ Anti-HIV ซึ่งถ้าถามในเรื่องประสิทธิภาพ สามารถบอกได้เลยว่าไม่ได้มีประสิทธิภาพที่ต่างกัน หากจะแตกต่างกัน คือ เรื่องของระยะเวลา ที่สามารถใช้ชุดตรวจชนิดนั้นๆ ได้
ในการตรวจแบบ Anti-HIV และ p24 antigen ในคราวเดียวกันหากพบว่าขีด Anti-HIV ไม่ขึ้น แต่ขีด p24 antigen ขึ้นเพียงขีดเดียวควบคู่กับขีดควบคุม เมื่อเกิดกรณีนี้ขึ้น แนะนำว่าควรตรวจอีกรอบหนึ่งที่ 21 วันไปแล้วเพื่อหาแอนติบอดีของเชื้อที่จะเกิดขึ้น แสดงให้เห็นว่าการตรวจแบบที่ 2 นั้น ไม่ได้แม่นยำไปกว่าแบบที่ 1 หากการตรวจแบบที่ 2 ตรวจพบเพียงแอนติเจนของเชื้อเพียงอย่างเดียว
เอชไอวี เป็นเรื่องที่ทุกคน ควรให้ความสนใจ ทาง อย.ให้ความใส่ใจกับประชาชาน ในการให้เขาถึงการ ตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง ได้แล้ว ดังนั้น หน้าที่ของเราที่ต้องทำ คือ หากเผลอไม่ได้ป้องกัน หรือมีพฤติกรรมเสี่ยง ก็ควรจะหาซื้อมาตรวจ
หากร้านขายยาไม่มีขาย ก็เลือกซื้อจากร้านที่เชื่อถือได้ ในอินเตอร์เน็ตแทน เพราะอย่างน้อยเราได้ตรวจ ได้สบายใจ หากผลออกมาเป็นบวก ก็เข้าสู่กระบวนการรักษา เพื่อลดโอกาสแพร่เชื้อให้คนที่คุณรัก และเป็นผลดีกับคุณ ให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนในสังคม ได้อย่างคนทั่วไป และอายุขัยที่ยาวนานเหมือนเดิม
ท่านใดที่มีความกังวลใจ และต้องการที่จะลองตรวจสักครั้ง เรายินดีให้บริการ ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย การรักษาความลับของลูกค้า คือ สิ่งที่เรายึดถือมากที่สุด มั่นใจ ปลอดภัย มีมาตรฐาน ให้บริการมากว่า 7 ปี
หากอยากมั่นใจในทุกครั้งที่ตรวจ โปรดซื้อชุดตรวจเอชไอวีกับร้านที่น่าเชื่อถือและมีมาตรฐานรับรอง
สนใจสินค้า แตะที่ QR Code หรือ สแกน Add LINE สอบถามได้เลยค่ะ
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook