ติดต่อ-สอบถาม 082-478-9162

ผู้ป่วย hiv จะมีผลตรวจเลือดเป็นอย่างไร

ผู้ป่วย hiv จะมีผลตรวจเลือดเป็นอย่างไร

ผู้ป่วย hiv จะมีผลตรวจเลือดเป็นอย่างไร หากพูดถึงการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่สามารถติดต่อได้จากการมีเพศสัมพันธ์ HIVเป็นเชื้อไวรัสที่หากร่างกายของเราได้รับเข้าไปแล้ว จะเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาว หรือ CD4 ที่มีหน้าที่คอยต่อสู้กับเชื้อโรคต่าง ๆ ที่เข้าสู่ร่างกาย และเมื่อไหร่ก็ตามที่เซลล์เม็ดเลือดขาวของเราถูกทำลายจนอ่อนแอลงเรื่อย ๆ ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายเราก็จะถูกทำลาย ถูกเชื้อโรคโจมตีได้ง่ายขึ้น และก่อให้เกิดโรคเอดส์ (ภูมิคุ้มกันบกพร้อง) ในที่สุด

 

สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวีมานานหลายปี บางรายก็อาจไม่มีอาการของการติดเชื้อเอชไอวีเลย เนื่องจากบางรายนั้นเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้องมาตลอดทำให้ไม่มีอาการแสดงออกมา มีระดับเชื้อต่ำ แต่ในทางกลับกันนั้นการไม่แสดงอาการ ก็อาจจะเกิดในผู้ที่ติดเชื้อและไม่เข้ารับการรักษาได้เช่นกัน  หรือบางรายก็อาจจะไม่ทราบว่าตนเองติดเชื้อ เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญเลย คือ ควรตรวจหาเชื้อเอชไอวี

 

อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วย HIV จะมี ผลตรวจเลือดเป็นอย่างไร การอ่านผลของการตรวจหาเชื้อเอชไอวีจะแสดงเป็น 1 ใน 3 ค่าเท่านั้น คือ positive, negative และ invalid

 

แต่การตรวจสามารถทำได้หลายวิธีแตกต่างกันออกไป ซึ่งในแต่ละวิธีก็จะมีความเหมาะสมต่อระยะเวลาที่ไปได้รับความเสี่ยงต่อการติดเชื้อมา

 

ผู้ป่วย hiv จะมีผลตรวจเลือด เป็นอย่างไร แน่นอนว่าต้องเป็นเลือดบวก สำหรับใครที่ยังคงมีความสงสัยเกี่ยวกับการติดเชื้อเอชไอวี หรือที่เราเรียกว่าเลือดบวกนั้น ผลตรวจต้องแสดงค่าอะไร ค่านี้วินิจฉัยว่าอะไร สามารถติดตามได้ดังต่อไปนี้

– ผลเลือด Positive หรือ Reactive หรือ Detected หรือที่เราเรียกกันว่า ผลเลือดบวก ซึ่งหมายความว่าเรามีการติดเชื้อเอชไอวี  หรือตรวจพบเชื้อเอชไอวีภายในร่างกาย

– ผลเลือด Negative หรือ Non-Reactive หรือ Undetected เป็นผลเลือดลบ ซึ่งหมายความว่า ไม่มีการติดเชื้อเอชไอวี หรือตรวจไม่พบเชื้อเอชไอวีภายในร่างกาย

แต่อย่างไรก็ตามก็อาจจะต้องระวังผลเลือดบวกปลอม (False positive) หมายความว่า อาจไม่ได้ติดเชื้อ แต่ผลตรวจเลือดออกมาเป็นบวก (positive) ซึ่งอาจพบได้น้อยในกรณีดังกล่าว ดังนั้น ควรที่จะระวังผลปลอมให้ดีว่ามีการติดเชื้อ แต่ถ้าผลตรวจออกมาเป็น Negative ในกรณีนี้เกิดขึ้นได้ เนื่องจากเราอาจตรวจในช่วงเวลาที่อยู่ในระยะฟักตัว (window period)

มีวิธีที่สามารถแก้ปัญหานี้ได้คือ เมื่อตรวจครั้งแรกแล้วผลเป็นลบ ก็สามารถสบายใจได้ และให้ตรวจติดตามผลอีกครั้งที่ 3 เดือน เพื่อรีเช็คผล

 

นอกจากนี้ยังมีการอ่านค่าอีกหนึ่งอัน คือ

– Invalid เป็นผลตรวจที่ไม่สามารถแปผลได้ อาจเกิดขึ้นจากความผิดพลาดในปัจจัยต่าง ๆ ของการตรวจนั้น แนะนำให้ตรวจอีกรอบ

 

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้ผู้คนส่วนใหญ่ได้รับความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีกันมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงทำให้หลาย ๆ คนนั้นมีความกังวลใจต่อการเข้ารับการตรวจหาเชื้อเอชไอวี ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ ที่คน ๆ หนึ่งจะเดินทางไปตรวจหาเชื้อเอชไอวีกับทางโรงพยาบาล เนื่องด้วยสาเหตุที่ว่าไม่อยากเปิดเผยตนต่อเจ้าหน้าที่ กลัวการบันทึกประวัติ เสี่ยงให้คนรอบตัวรู้เรื่องนี้

แต่การเข้ารับการตรวจเลือดก็เป็นหนทางเดียวที่จะทำให้เรารู้ว่าตนเองติดเชื้อหรือไม่ ต้องบอกก่อนว่าการตรวจพบเชื้อตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็มีโอกาสในการเข้ารับการรักษาได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

ฉะนั้น สำหรับใครที่มีความเสี่ยงต่อการติดชื้อเอชไอวี แต่ไม่กล้าไปตรวจที่สถานพยาบาลเรามีทางออก เพราะปัจจุบันนี้มีชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง วางจำหน่ายผ่านทางร้านขาย ที่ชื่อว่า อินสติชุดตรวจHIV ทุกคนสามารถหาซื้อมาทำการตรวจคัดกรองเบื้องต้นด้วยตนเองได้แล้ว โดยชุดตรวจมีความปลอดภัย แม่นยำ และได้มาตรฐานแน่นอน

เพราะเป็นชุดตรวจที่ได้รับการรับรองจาก WHO, CE, Health Canada และที่สำคัญในขณะนี้ อินสติ เป็น ชุดตรวจHIVด้วยตนเอง เพียงยี่ห้อเดียวที่ผ่านอย.ไทย ดังนั้นหากจะตรวจทั้งทีก็ควรเลือกที่มีมาตรฐาน และระวังชุดตรวจเถื่อนที่อยู่ตามอินเทอร์เน็ต


 

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook