การรักษาโรคเอดส์ให้หายขาด ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า โรคเอชไอวี (HIV) และโรคเอดส์ (AIDS) นั้นมีความแตกต่างกัน เพราะโรคเอชไอวีไม่ใช่แค่โรคธรรมดาแต่เป็นเชื้อไวรัส
ที่หากร่างกายของเราได้รับเข้าไปแล้ว เชื้อไวรัสเอชไอวีจะเข้าไปทำลายระบบภูมิคุ้มกันจนบกพร่อง และทำให้ร่างกายของป่วยอ่อนแอ จนไม่สามารถต้านทานต่อเชื้อโรคต่าง ๆ ที่เข้าไปสู่ร่างกายได้
“ถ้าหากจะอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ คือ เอชไอวีเป็นเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคเอดส์นั่นเอง“
ในระยะแรก ของการที่ได้รับ เชื้อเอชไอวี นั้น จะยังไม่แสดงอาการ ให้เห็นได้ชัด แต่เชื้อก็จะยังคงอยู่ ภายในร่างกาย และแพร่กระจาย ไปทั่วร่างกาย
ทำให้คนส่วนใหญ่มัก ที่จะไม่รู้ตัวว่าตนเองติดเชื้อ และไม่ได้คาดว่า จะติด จึงทำให้ไม่มีการรักษายับยั้ง การพัฒนาของเชื้อ จนส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกัน ถูกทำลายลงอย่างหนัก
และยิ่งหากไม่ทำการรักษาเชื้อเอชไอวี อาจพัฒนาไปสู่ระยะเอดส์ ซึ่งถือเป็นระยะสุดท้าย ของการติดเชื้อเอชไอวีนั่นเอง
การรักษาโรคเอดส์ให้หายขาด ต้องเข้าใจก่อนว่า โรคเอดส์เป็นโรคในตอนนี้ ยังไม่สามารถรักษาให้หายได้ แต่หากเชื้อเอชไอวี ยังไม่พัฒนาไปสู่โรคเอดส์ ก็ยังมีโอกาสในการรักษา
ให้ไม่แสดงอาการยับยั้งการพัฒนาเชื้อ และมีอายุขัยยืนยาวดังเดิมได้
และทั้งนี้จากที่ผ่านมาทั้งหมด มีการวิจัยสำหรับการรักษาการติดเชื้อเอชไอวี ให้หายได้ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 วิธีหลัก ๆ ด้วยกัน คือ การปลูกถ่ายไขกระดูก
การเริ่มยาต้าน อย่างรวดเร็วภายใน 2 สัปดาห์ ก่อนที่ผลตรวจ จะออกมาเป็นบวก และวิธีสุดท้าย ก็คือ การรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ แต่วิธีนี้ก็ยังได้ผลไม่ดีมากเท่าที่ควร และยังไม่มีการ นำมาใช้กับผู้ป่วย ในตอนนี้
และส่งผลให้ผู้ป่วย มีอาการคล้ายเป็นไข้หวัดใหญ่ เช่น ไข้ เจ็บคอ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามร่างกาย มีผื่นขึ้น หรือ ต่อมน้ำเหลืองโต
นอกจากนี้ ยังเป็นระยะที่ผู้ป่วยมีโอกาส ในการแพร่เชื้อ ไปยังผู้อื่นได้ง่าย เนื่องจากเป็นระยะที่เชื้อ ยังไม่แสดงอาการให้เห็นได้ชัด
จากที่คนปกติจะมี 500-1,600 เซลล์/ลบ.มม. และทำให้ร่างกายของผู้ป่วยนั้น อ่อนแอจนมีโอกาสในการติดเชื้ออื่น ๆ ได้ง่าย และมีโอกาส ในการเสียชีวิตสูงมาก
การรักษาโรคเอดส์ให้หายขาด ปัจจุบันทางการแพทย์ ยังคงอยู่ในขั้นตอนการศึกษา และคิดค้นกันอย่างต่อเนื่อง และการรักษาโรคเอชไอวี และโรคเอดส์ให้หายขาดได้ในปัจจุบันนี้มีผู้ป่วยเพียงรายเดียวเท่านั้น
ที่สามารถ หายจากการติดเชื้อเอชไอวี ได้จริง ซึ่งเป็นการทำการทดลอง และวิจัยโดยสถาบัน ต่างประเทศ
ทั้งนี้ หากใครที่ไม่สะดวกเดินทาง ไปตรวจที่สถานพยาบาล ปัจจุบันมี ชุดตรวจเอชไอวี ด้วยตนเองวางจำหน่าย เพื่อเป็นทางออกให้แก่ผู้ที่มีความเสี่ยง และผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว
ได้ทำการตรวจคัดกรองด้วยตนเอง โดยสามารถทำการตรวจได้เองที่บ้าน สามารถรู้ผลได้ใน 15-20 นาทีเท่านั้น มีความปลอดภัย แม่นยำ และได้มาตรฐาน อย่ารอช้าหากมีความเสี่ยง
ยิ่งตรวจพบเชื้อเร็ว ก็มีโอกาสเข้ารับการรักษา และรับยาต้านได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสม
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook